น้ำกระท่อมรสผลไม้

22 ก.ค. 2568

“น้ำกระท่อมรสผลไม้ เมื่อของขมถูกทำให้หวาน
กับการเริ่มต้นของวงจรเสพติดแบบใหม่”
***โพสต์นี้ไม่ได้โฆษณา ชวนให้ลองแต่อย่างใด แต่อยากให้ครู ผู้ปกครอง และคนใกล้ชิดเฝ้าระวังอันตรายใกล้ตัวเด็ก***
“กระท่อมไม่ขมแล้วครับพี่ ลองรสสตอเบอรี่มั้ย ลิ้นจี่ หรือ องุ่นก็มี สดชื่นนะ”
เสียงเชิญชวนที่ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในยุคที่พืชกระท่อมถูกปลดล็อกเสรี และกลายเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตในหมู่วัยรุ่นอย่างเงียบๆ แต่เบื้องหลัง “ความหวาน” เหล่านั้น…อาจแฝงภัยเงียบที่ทั้งสังคมยังไม่ทันตั้งรับ
...จาก “สมุนไพร” สู่เครื่องดื่ม “แฟชั่น”
การ rebranding เกิดขึ้นอย่างแนบเนียนแบบที่คนวงนอกอย่างเราไม่มีทางรู้
กระท่อมถูกเปลี่ยนให้มีภาพลักษณ์ใหม่ เป็นเครื่องดื่มทางเลือกที่ “เข้าถึงง่าย” มีชื่อเมนูเก๋ๆ ทำให้วัยรุ่นหลายคนบอกว่า “แค่อยากลอง” บางคนบอกว่า “ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีสารเสพติดผสม” จนนำไปสู่การเสพติด
นี่คือการเปลี่ยนภาพจาก "ยาเสพติดให้โทษ" ไปเป็น "น้ำผลไม้ของวัยรุ่น" เด็กมัธยมแค่เปิดแอป ก็สั่งน้ำกระท่อมรสผลไม้ได้ถึงหน้าบ้าน
.
.
.
หลังจากการปลดล็อกพืชกระท่อมจากบัญชียาเสพติดเมื่อปี 2564 ผู้ประกอบการหลายรายได้พัฒนาน้ำกระท่อมให้มีรสชาติคล้ายเครื่องดื่มผลไม้ เช่น รสใบเตย มะพร้าว บลูเบอรี่ เพื่อดึงดูดกลุ่มวัยรุ่น ราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 80–120 บาทต่อขวด
...การเข้าถึงน้ำกระท่อมที่ง่ายขึ้นทำให้เกิดการแพร่ระบาดในหมู่วัยรุ่นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้สถานศึกษา มีรายงานว่าร้านน้ำกระท่อมเปิดให้บริการตลอดคืน และกลายเป็นแหล่งมั่วสุมของเยาวชน ในจังหวัดนครราชสีมา พบว่ามีผู้ป่วยจากการดื่มน้ำกระท่อมสะสมกว่า 1,700 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นเยาวชนอายุ 12–17 ปี ถึง 49 ราย
หลายคนต้องเข้ารับการฟอกไตเฉียบพลัน เนื่องจากสาร ไมทราไจนีน ที่มากเกินมาตรฐาน และการบริโภคติดต่อกัน
ขณะที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังตรวจพบว่า บางตัวอย่างของน้ำกระท่อมที่วางขายทั่วไป มีการปนเปื้อนยาแผนปัจจุบัน เช่น คลอเฟนิรามีน, ยาแก้แพ้ และไดเฟนไฮดรามีน
....การที่น้ำกระท่อมรสผลไม้กลายเป็นของเล่นใหม่ในหมู่วัยรุ่นไม่ใช่แค่เรื่องของรสนิยม แต่มันกำลังบั่นทอนสุขภาพ สติ และระบบรับผิดชอบของสังคมโดยรวม และเพื่อเป็นการป้องกันความเสียหาย จะดีกว่าไหมถ้ามีข้อกำหนดที่ชัดเจนกว่านี้
...ออกกฎหมายควบคุมการจำหน่ายน้ำกระท่อมในเขตสถานศึกษา
...กำหนดอายุผู้ซื้อขั้นต่ำอย่างเคร่งครัด
...ตรวจสอบและบังคับใช้มาตรฐาน อย. อย่างจริงจัง
...ให้ความรู้เชิงป้องกันแก่เด็กและผู้ปกครอง
กฎหมายอาจปลดล็อกกระท่อมแล้ว แต่ยังไม่มีใคร “ล็อก” ความเสี่ยงที่เยาวชนกำลังเผชิญ
เราต้องไม่ปล่อยให้ความหวานซ่อนพิษกลายเป็นเรื่องปกติ และไม่ปล่อยให้ “ของที่เด็กสั่งได้ง่าย” กลายเป็นกับดักที่ไม่มีใครพูดถึง